## การรับประทานสารอาหารที่จำเป็นให้ครบ บางครั้งคุณอาจคิดว่าเพียงพอแล้ว แต่ความเป็นจริง สารอาหารบางประเภท "ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้" จำเป็นต้องมี #จุลินทรีย์ช่วยในการสร้าง เช่น #โพรไบโอติก ที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเราเป็นอย่างมาก
|
"โปรไบโอติกส์" เป็นสิ่งที่ทำให้ลำไส้ของเราสมดุลและยังมีประโยชน์ต่างๆ อีกมากมายเช่น
.
1.ช่วยระบบขับทางและระบบทางเดินอาหาร
ป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องเสียจากแบคทีเรียไม่ดี ช่วยป้องกันอาการท้องผูก
. 2.ช่วยให้ไม่ท้องอืดเมื่อดื่มนมวัว
โปรไบโอติกส์จะช่วยผลิตเอนไซม์มาช่วยย่อยนมวัว ทำให้ดื่มแล้วไม่ท้องอืด
. 3.ลดการเกิดมะเร็ง
ลดการทำงานของสารก่อมะเร็ง ลดการทำงานของแบคทีเรียที่สร้างสารหรือเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับสารก่อมะเร็ง
. 4.เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการกำจัดเชื้อโรค
. 5. ลดการอักเสบและภูมิแพ้
โปรไบโอติกส์จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ผลิตสารมาทำลายสิ่งแปลกปลอม
. 6.ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
|
แล้วโพรไบโอติก ชนิดใดที่มีผลดีต่อลำไส้ในระยะยาว ? ![]() |
. โพรไบโอติก มีความสำคัญในการกระตุ้นระบบย่อยอาหารของเรา ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
.
ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น ทำให้สามารถต้านทานโรคภูมิแพ้ ช่วยปรับสมดุลของโรคเบาหวานและโรคอ้วน และช่วยลดความผิดปกติของลำไส้ จากอาการแพ้ภูมิตัวเองอีกด้วย
.
ทั้งนี้จุลินทรีย์โพรไบโอติกชนิด #Lactobacillus_acidophilus_NCFM ได้รับการศึกษาในเชิงลึก #ว่ามีกลไกที่สำคัญในการร่วมสร้างภูมิคุ้มกันกับกรดน้ำดี #และช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตได้เป็นเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นว่า สามารถช่วยในการย่อยของระบบทางเดินอาหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง ๆ
.
นอกจากนี้การเสริมอาหารที่มีแบคทีเรียโพรไบโอติก L. acidophilus NCFM #ยังช่วยในเรื่องการดูดซึม #และเร่งปฏิกิริยาของสารประกอบพรีไบโอติกที่มีศักยภาพกว่า 11 ชนิด
.
การค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึง ลักษณะการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ในระบบย่อยอาหารที่ดีขึ้น
.
จากการใช้อาหารเสริมที่มี L. acidophilus NCFM เรียกได้ว่า แบคทีเรียชนิดนี้มีผลในเชิงบวก ต่อจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารเป็นอย่างมาก
|
. . “ทำไมผมกินอาหารเสริมที่มีจุลินทรีย์ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้แล้วไม่ได้ผล”
.
ข้อนี้ผมต้องขอบอกเลยนะครับว่าการกินอาหารที่มีจุลินทรีย์อย่างเดียวอาจจะไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรเลย แต่การกินจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติที่ดีจนสามารถเรียกว่า “โปรไบอติกส์” หรือ “จุลินทรีย์ตัวดี” ตังหากที่กินแล้วจะไม่เสียเงินฟรี
![]() |
##วิธีเลือกกินจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติที่ดี ##
. 2/ ทนต่อกรดในกระเพาะได้ดี โดย lactobacillus acidophilus จะเป็นสายพันธ์ที่ทนต่อกรดได้มากที่สุด
. 3/ ทนต่อน้ำดีในกระเพาะ ข้อนี้ก็หนีไม่พ้น lactobacillus acidophilus
. 4/ สามารถยึดเกาะลำไส้ได้ดีกว่าแบคทีเรียตัวไม่ดี
. 5/ ทนต่อสารต้านเชื้อโรคทั้งที่เป็นกรดอินทรีย์และไฮดดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นต้น
. 6/สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ เช่น Bacillus Coagulans
. 7/ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้
|
แต่นอกจากการเลือกทาน”ชนิด”ของจุลินทรีย์แล้วก็ยังมี “ปริมาณ”ของจุลินทรีย์และอาหารของจุลินทรีย์อย่าง “พรีไบโอติกส์” ที่ควรมีรวมอยู่ในการทานครั้งนั้นๆด้วยครับ
|
. . #แก้ท้องผูกอย่างถาวร โดยเภสัชกรเอํกซ์ . นาทีที่ 16 ขึ้นไป การกินโปรไบโอติก แตกต่าง จากกิน detox อย่างไร . นาทีที่20 เทคนิค 4ข้อ แก้ปัญหาท้องผูก ถ่ายไม่สุด |
#PRD คือ แนวทางที่แพทย์ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกันในเวลานี้
.
ถ้าเรามีจุลินทรีย์ในลำไส้มากพอ เราจะขับถ่ายปกติ ทุกวัน ภูมิคุ้มกันแข็งแรง
. ▶️เพิ่มจุลินทรีย์ตัวดีให้ลำไส้ 12,400 ล้านตัวต่อซอง
▶️เติมใยอาหารละลายน้ำ 5,000 มิลลิกรัม เป็นอาหารจุลินทรีย์ตัวดี (ไม่อุดตัน)
▶️ปรับลำไส้ให้เหมาะกับการเติบโตของจุลินทรีย์ตัวดี
.
หนึ่งเดียวในตลาดที่ครบใน 1 ซอง ถ่ายง่าย รวดเดียวจบ ถ่ายสุด สบาย โล่งท้องรสชาติอร่อย เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ![]() |