สังเกตุอย่างไร เมื่อ ระบบย่อยมีปัญหา ❌ อาหารที่กินเข้าไปไม่ย่อย หรือ ย่อยช้า (ซึ่งโดยปกติ อาหารจะอยู่ในกระเพาะ ประมาณ 1-2 ชม. ![]() หลังจากนั้น อาหารจะไหลลงสู่ลำไส้เล็ก (ถ้ากระเพาะย่อยได้ดี อาหารจะย่อยได้ละเอียดมาก และอาหารจะถูกดูดซึมได้ดีที่ลำไส้เล็ก) Keyword สำคัญอยู่ตรงนี้ค่ะ เพราะถ้ากระเพาะย่อยอาหารไม่ได้ อาหารถูกค้างอยู่ในกระเพาะ 3-5 ชั่วโมง เกิดการอืด เกิดแก๊ส ก็คือ เกิดลมนั่นเอง ซึ่งลม ก็เป็นต้นเหตุ ของกรดไหลย้อน และพอลมสะสม สะสมเยอะขึ้น ทำให้เกิดอาการต่างๆ ❗ มึนหัว มือสั่น สมองตื้อ เหนื่อย ❗ อาจมีอาการปวดหลัง ปวดท้ายทอย ❗ เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืดจุกแน่น ❗ฉี่บ่อยโดยเฉพาะกลางคืน ❗ และหายใจไม่อิ่ม ซึ่งการหายใจไม่อิ่มนี้ เกิดจากลมตัวนี้จะไปขัดขวางระบบหายใจจึงทำให้รู้สึกหายใจไม่อิ่ม และยังมาจากอาการแพนิกอีกด้วยจากที่คนไข้เครียดกับอาการของกรดไหลย้อนทุกวันค่ะ ![]() |
❓ทำไมระบบย่อยอาหารถึงสำคัญ กรดน้ำย่อย (เป็นกรดแก่) ในกระเพาะอาหาร นอกจากจะทำหน้าที่ย่อยอาหารแล้ว ยังทำหน้าที่ ✅ย่อยโปรตีน หรือ อาหารที่เราทาน ✅ช่วยการดูดซึม วิตามิน และ เกลือแร่ต่างๆ ✅ฆ่าเชื้อโรค และปกป้องร่างกาย ![]() |
❓ จากที่เราเข้าใจผิดว่า เราท้องอืด เพราะกรดเกิน แล้วเลือกวิธีโดยการทานยาลดกรด พอกินแล้วรู้สึกสบายท้อง โล่ง ก็ทานยาลดกรดตลอด ❌ ผลสุดท้าย จากการทายาลดกรดมานานๆ คือ ▶เราจะรู้สึกอืด ▶จุกเสียด ▶แน่นท้อง เพราะ การกินยาลดกรด มีผลไปยังยั้งการหลั่งกรด แสดงว่า กรดที่ต้องหลั่งออกมาเพื่อย่อยอาหาร 100% ถูกยายับยั้งไว้ ทำให้กรดที่ต้องหลั่งออกมา อาจเหลือแค่ 50% ทำให้กระเพาะย่อยอาหารไม่ได้ ❌ 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 กระเพาะที่ปราศจากน้ำย่อยที่ดี จะทำให้กระเพาะเราพัง 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 แล้วจากที่ทานยาลดกรดทุกวัน ไปเรื่อยๆ กระเพาะจึงต้องทำงานหนักมาก และย่อยไม่ได้ ![]() ฉะนั้นอาหารที่เราทานเข้าไป จึงย่อยไม่ได้ ก็เกิดแก๊ส เกิดลม ![]() อาหารแทนที่จะเคลื่อนตัวลงลำไส้เล็กภายใน 3 ชม. ![]() กลับเป็นว่า อาหารค้างอยู่กระเพาะ ทำให้หูรูดพัง |
![]() ❓ สาเหตุที่ทำให้ระบบย่อยอาหารพัง 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 1. พฤติกรรม สำคัญมาก คือ 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 ❌ การกินจุก กินจิก กินไม่เป็นมื้อ ไม่เป็นเวลา ทำให้กระตุ้นน้ำย่อยหลั่งไม่เป็นเวลา ![]() ทำให้กระเพาะที่มีเยื่อเมือก ถูกกัดกร่อนทั้งวัน ![]() และ เมื่อถึงเวลาทานอาหารจริงๆ ทำให้ไม่มีน้ำย่อยหลั่งออกมาเพื่อย่อยอาหารที่เราทาน จึงเกิดอาการท้องอืด 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 2. ความเครียด ยิ่งเครียดบ่อย น้ำย่อยยิ่งหลั่ง 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 โดยความเครียดที่เกิดจากจิตใจจะส่งผลไปยังสมองส่วนไฮโปทาลามัสส่วนหน้า
![]() ซึ่งจะส่งกระแสประสาทไปยังกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะทำงานมากขึ้น
![]() และหลั่งกรดออกมามากขึ้นจนเกิดเป็นแผลในกระเพาะ
![]() ความเข้าใจผิดส่วนมาก ทุกครั้งที่ท้องอืด จะกินยาลดกรดแบบน้ำ บางคน กินยาลดกรด เป็นปี 2 ปี 3 ปี 5 ปี นานๆๆๆๆๆ ![]() ทำให้เกิด จุก แน่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลมเยอะเต็มไปหมด กระเพาะอ่อนแอลงเรื่อยๆ เยื่อเมือกก็บางลงเรื่อยๆ |
🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 ถึงประเด็นสำคัญที่ว่า ทำไมระบบย่อยอาหารถึงหายยาก 1. ระบบย่อย ปัญหาคือ น้ำย่อยหลั่งไม่เป็นเวลา หลั่งทั้งวัน ทั้งคืน เป็นปีๆ 2. เพราะกระเพาะอาหาร อ่อนแอไปแล้ว เพราะเยื่อเมือกบาง การที่ระบบย่อยแย่ไปแล้ว เหมือนกับเราต้องปรับนิสัยให้ระบบย่อยกลับขึ้นมาดีเหมือนเดิม ต้องให้เวลากระเพาะเราฟื้นตัว และ แข็งแรงขึ้น 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 |
เคล็ดลับขั้นสุดยอด ฟื้นฟูกระเพาะ ระบบย่อยอาหาร ให้แข็งแรง 📌📌 เทคนิคแรก ที่ทำให้กระเพาะเราแข็งแรง เราต้องบริโภคอาหารที่ทำให้ระบบการย่อยอาหารเราดีขึ้น ![]() 1. มะละกอ ช่อยย่อยอาหาร และ ระบบขับถ่ายดีขึ้น วันละ 1/2-1 ลูก #มะละกอสุก มีเอ็นไซม์ โปรตีเอส ที่ชื่อว่า “ปาเปน” ซึ่งมีการศึกษาพบกว่า ปาเปน สามารถช่วยลดอาการลำไส้แปรปรวนลงได้ . ได้แก่อาการท้องอืดและท้องผูก ซึ่งตรงกับอาการของคนเป็นกรดไหลย้อนเลยทีเดียว ![]() 2. กล้วยสุกๆ ช่วยย่อยแป้ง #กล้วย มีเอ็นไซม์ อะไมเลส และกลูโคซิเดส . ที่ช่วยในการย่อยอาหารพวกแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว . และเอ็นไซม์นี้ในกล้วย ทำให้กล้วยสุก มีรสชาติหวานกว่ากล้วยดิบ . และกล้วยยังมี ใยอาหาร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบย่อย โดย กล้วย 118 กรัม จะมีใยอาหาร 3.1 กรัม . ![]() 3. กิมจิ ช่วยย่อยแป้ง และ ไขมัน ในกิมจินั้นจะมี จุลินทรีย์ตัวดี ซึ่งจะสร้าง เอ็นไซม์ โปรตีเอส ▶ มาย่อยโปรตีน ไลเปส ▶ มาย่อยไขมัน และอะไมเลส ▶ มาย่อยแป้ง ![]() 4. น้ำผึ้ง ช่วยย่อยแป้ง และ โปรตีน #น้ำผึ้งสดๆ (ไม่ผ่านความร้อน ความร้อนสูงๆ และการเจอความร้อนบ่อยๆทำให้เอ็นไซม์ในน้ำผึ้งเสียสภาพไป) พบเอ็นไซม์ช่วยย่อยหลายชนิดด้วยกัน ได้แก่ . Diastases(ไดแอสเทส) : ย่อยอาหารพวกแป้ง กลายเป็น น้ำตาลมอลโทส . Amylase(อะไมเลส) : ย่อยแป้ง เป็นน้ำตาลกลูโคสและฟรุคโตส . Invertases (อินเวอเทส): ย่อยน้ำตาลซูโครส(น้ำตาลทราย) กลายเป็น น้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรุคโตส . Protease (โปรตีเอส) : ย่อยโปรตีนจนกลายเป็น กรดอะมิโน ![]() 5. ขิง ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารได้ดี ![]() ขิงเร่ง Gastric Emptying Time ให้เร็วขึ้น ช่วยลดแรงดันในกระเพาะอาหาร
ลดความเสี่ยงการเกิดกรดไหลย้อนได้ . ขิงเพิ่มการบีบตัวของกระเพาะอาหารส่วน Antrum
ช่วยเร่งการเคลือนที่ของอาหารในกระเพาะไปสู่ลำไส้เล็ก .
ปลอดภัยไม่ต้องถาม เพราะน้ำขิงเป็นเมนูหลักของคุณแม่หลังคลอดกันเลยทีเดียว
คือ ปลอดภัยมากๆค่ะ |
📌📌 เทคนิคที่ 2 ที่ทำให้กระเพาะเราแข็งแรง ทำให้กระเพาะมีสารหลั่งเยื่อเมือกได้เยอะ สารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้เยื่อเมือออกมาเยอะที่สุด คือ สารกลุ่มไตรเทอร์ปีน(Triterpene ) ซึ่งพบมากใน โสมและ เห็ดหลินจือ ![]() ![]() |
🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 ใจร้อนไม่ได้นะคะ สำหรับกลุ่มคนที่กินยาลดกรดมานานๆ หรือ กินๆ หยุดๆ เพราะท่านต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ 📌ไม่มีทางลัด วิธีที่ดีที่สุดคือ ต้องทำให้ กระเพาะ และลำไส้ กลับมาแข็งแรง หูรูดเราจะกลับมาแข็งแรง อย่างแน่นอน 🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅🔅 |
😍😍 คำขอบคุณจากใจ สูตรเภสัชเอ๊กซ์ ใครทานก็เห็นผล 😍😍 |
![]() |
GRD เม็ดเดียวจบ ก ร ด ไ ห ล ย้ อ น เรื้อรัง❗❓
กินอาหารเสริมเป็นหมื่น เป็นแสน ก็ไม่เห็นผล .
พบทุกคำตอบจากผู้พัฒนาสินค้า คุณเอ็กซ์และ ดร.กำพล
รายการ สุขหยุดโรค รายการ TNN ช่อง 16
|
💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖 |
เคยทั้งกิน ยาลดกรด
• ยาคลายเครียด ไม่มีความรู้สึกไรเลย
• อาการแน่นท้อง • หายใจไม่ทั่วท้อง • ฉี่บ่อย
อาการไม่มีอีกแล้ว GRD ทำให้ชีวิตพี่ดีขึ้น
|
![]() |
ทำไม GRD รักษากรดไหลย้อนได้ตรงจุด
✅ขับลม ลดอาการแน่น จุก เสียด
เปปเปอร์มิ้นต์ สเปียร์มิ้นต์ สเปคพิเศษ L-Methionine และสารสกัดขิงใน GRD สามารถลดอาการท้องอืด แน่น จุกเสียด ไม่สบายท้อง ไม่สบายตัว ให้ดีขึ้นภายใน 15 นาทีหลังจากที่ทานเพียงเม็ดแรกเลยค่ะ
✅เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร
สารสำคัญจาก ขิงใน GRD ช่วยกระตุ้นการย่อย ดูดซึม ปรับระบบการย่อยให้ผ่อนคลาย ออกฤทธิ์โดยตรงที่ระบบย่อยอาหาร เอ็นไซม์ซิงจิเบนในขิง ช่วยย่อยได้ดีว่า เอ็นไซม์ปาเปนในมะละกอ ถึง 180 เท่า ขิงเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อระบบย่อยอาหาร และ L-Methioinene มีประสิทธิภาพช่วยการย่อย โดยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับอ่อน จึงช่วยแก้ปัญหาระบบการย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
✅รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
การบริโภคขิง สารสำคัญในโสมไซบีเรีย กรดอะมิโน L-Methionine เป็นประจำ สามารถลดการอักเสบของกระเพาะอาหารได้ สำหรับคนที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ก็ช่วยรักษาให้แผลค่อยๆรักษาทั้งแผลที่หลอดอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้ รวมถึงสารสกัดจากโสมในสเปคที่เรานำมาใส่ใน GRD นั้นสามารถช่วยควบคุมการกระตุ้นการสร้างเมือกเคลือบกระเพาะอาหารเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนได้เป็นอย่างดี
✅เพิ่มการบีบตัวของกระเพาะให้อาหารไหลไปสู่ลำไส้เล็กเร็วขึ้น
โดยทำให้กล้ามเนื้อเรียบของระบบย่อยอาหารคลายตัว ลดอาการเกร็งและตึงของกล้ามเนื้อเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะคลายตัว กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงกระเพาะมากขึ้น จึงเพิ่มการย่อยและป้องกันการระคายเคืองจากกรดไปในตัว
✅ลดลำไส้แปรปรวน
ขิงลดอาการท้องผูก รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนโดยออกฤทธิ์โดยตรงที่ระบบย่อยอาหาร น้ำมันดอกทานตะวัน ลดอาการลำไส้แปรปรวนและเสริมฤทธิ์บรรเทาอาการท้องผูกได้อีกด้วย
✅ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ คลายเครียด เปปเปอร์มิ้นต์ สเปียรมิ้นต์ ขิง ช่วยโดยตรงในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่กระเพาะอาหาร ทำให้แก้การที่อาหารไม่ย่อยจนล้นเอ่อ กลายเป็นกรดไหลย้อน ทะลักขึ้นมาที่หลอดอาการได้ตรงจุดที่สุด เพราะทำให้การทำงานของกระเพาะอาหารเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งโสมเป็นสมุนไพรปรับสมดุลในร่างกาย บรรเทาอาการต่างๆของโรคกรดไหลย้อนและคลายเครียดได้จากระบบประสาทเลยทีเดียว และ L-Methionine ในสูตรของ GRD เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และสามารถป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้าได้ด้วย
|
#6_วิธีเอาชนะปัญหาแผลในกระเพาะอาหาร ![]() |
❶ เคลือบแผล : การเคลือบแผล ทำให้ลดอาการเจ็บ และเป็นการบอกกระเพาะว่าไม่ต้องกลัวการหลั่งกรด หลั่งออกมาเลย ให้พอที่จะสามารถย่อยอาหารให้เต็มที่ เพื่อที่จะไม่เกิดอาหารตามมาของกรดไหลย้อน
▶ สมุนไพรที่เคลือบแผลได้คือ : กระเจี๊ยบเขียว กล้วยดิบ ว่านหางจระเข้ น้ำผึ้ง
❷ ลดอักเสบแสบร้อน : เพื่อบรรเทาความทรมานของการแสบร้อน หรือ ปวดท้อง ▶ สมุนไพรที่ลดอาการอักเสบแสบร้อนได้คือ : บัวบก น้ำผึ้ง ว่านหางจระเข้ ❸ กระตุ้นเยื่อเมือก : ต้นเหตุที่แท้จริงคือ กระเพาะไม่แข็งแรง สร้างเยื่อเมือกไม่มากพอ ทำให้เกิดแผลในกระเพาะ ส่งผลเป็นวงจรให้กระเพาะย่อยได้ไม่ดี จนกลายเป็นกรดไหลย้อนเรื้อรังได้หากไม่รีบรักษาแผลให้หาย ▶ สมุนไพรที่กระตุ้นเยื่อเมือก : กระเจี๊ยบเขียว กล้วยดิบ ❹ ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ : หลายคนมองข้ามประเด็นนี้จนหายช้าจากการเป็นกรดไหลย้อน เพราะทานโปรตีนน้อยเกินไป ▶ แนะนำโปรตีนจากไข่ขาว หรือโปรตีนแหล่งอื่นที่ย่อยง่าย ให้เพียงพอเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ❺ ยับยั้งเชื้อ : เชื้อ H.Pyroli ที่เป็นต้นเหตุของโรคกระเพาะอาหารติดเชื้อ เป็นตัวการสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้นถ้าเราดูแลสุขอนามัย ของเราดี ทานสมุนไพรยับยั้งเชื้อ ก็เป็นการช่วยป้องกันปัญหาแผลเรื้อรังอีกทางด้วยค่ะ ▶ สมุนไพรยับยั้งเชื้อ : กระเจี๊ยบเขียว ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก น้ำผึ้ง ❻ ลดท้องผูก ปรับสมดุลลำไส้ : คนที่มีปัญหากรดไหลย้อน หรือกระเพาะอาหารจำเป็นมากที่ต้องดูแลลำไส้ให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมโรคให้รุนแรงขึ้น พรีไบโอติกส์ ใยอาหารท่ีละลายน้ำได้ สามารถช่วยปรับสมดุลลำไส้ได้ ▶สมุนไพรที่เป็นพรีไบโอติกส์ : กระเจี๊ยบเขียว กล้วยดิบ สาหร่ายคอเรลล่า 🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆
ถ้าเราดูแล 6 ข้อนี้ได้ดี รับประกันปัญหาแสบร้อนจะหายไปในเร็ววันแน่นอนค่ะ 🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆
|